เลือกประเทศอื่นเพื่อรับบริการ

วิธีการจัดเก็บอาหารอย่างถูกต้อง!

2023-06-26

2023-06-26

สำหรับชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน ทำให้เราแทบจะไม่มีเวลาในการเข้าครัว แต่สิ่งสำคัญคือต้องรู้จักเก็บอาหารอย่างปลอดภัย เพื่อหลีกเลี่ยงการเน่าเสียจากอาหารและรักษาความสดใหม่ของอาหารให้คงอยู่ ในบทความนี้ เราจะกล่าวถึงวิธีการเก็บรักษาอาหารและการใช้งานช่องแช่แข็งเพื่อให้อาหารของคุณอยู่ในสภาพดี

 

เคล็ดลับในการเก็บรักษาอาหารเพื่อช่วยให้อาหารไม่เน่าเสีย

การเก็บรักษาอาหารที่ถูกวิธีจะสามารถช่วยให้อาหารเกิดการเน่าเสียช้าลง คุณสามารถป้องกันความเน่าเสียได้โดยปฏิบัติตามแนวทางการจัดเก็บเหล่านี้:

 

1.ตรวจสอบฉลากสำหรับคำแนะนำในการจัดเก็บ

นอกจากเนื้อสัตว์ ผัก และผลิตภัณฑ์จากนม ยังมีสินค้าชนิดอื่นๆ อีกมากมายที่จำเป็นต้องแช่เย็น ซึ่งหากคุณไม่ได้แช่เย็นตามฉลากคำแนะนำ ควรรีบใช้วัตถุดิบเหล่านั้นให้หมดหรือนำไปทิ้งเพื่อไม่ให้เกิดการเน่าเสียจนส่งกลิ่นเหม็น 

2.รักษาอุณหภูมิของเครื่องใช้ไฟฟ้า

ควรตั้งค่าช่องแช่แข็งไว้ที่ 0° F (-18° C) วิธีที่ดีที่สุดในการวัดอุณหภูมิคือการใช้เทอร์โมมิเตอร์สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า ควรตรวจสอบอุณหภูมิอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง 

3.ใช้วัตถุดิบที่เตรียมไว้มาทำอาหารให้เร็วที่สุด

ควรใช้วัตถุดิบที่แช่เย็นไว้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น เนื้อสัตว์ เพราะยิ่งเก็บไว้ในตู้เย็นนานขึ้น โดยเฉพาะที่อุณหภูมิสูงกว่า 40° F (4° C) โอกาสที่แบคทีเรียจะเกิดจากอาหารจะยิ่งมีมากขึ้น

4.ของเน่าเสียง่ายควรแช่เย็นหรือแช่แข็งทันที

ทันทีที่คุณกลับถึงบ้าน ควรใส่อาหารที่ต้องแช่เย็นไว้ในตู้เย็น และเมื่อนำผลิตภัณฑ์ไว้ที่อุณหภูมิห้องให้ปฏิบัติตาม "กฎสองชั่วโมง" คือห้ามปล่อยให้เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ หรืออาหารอื่นๆ ที่ต้องแช่เย็น วางทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องนานกว่าสองชั่วโมง 

5.ระวังอาหารเน่าเสีย

ควรกำจัดวัตถุดิบที่เริ่มส่งกลิ่นหรือมีเชื้อราทิ้งไป แม้ว่าเชื้อราจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพเพียงเล็กน้อย แต่ก็สามารถทำให้อาหารมีรสชาติที่ผิดเพี้ยนไปได้ 

6.อย่านำภาชนะที่เคยบรรจุเนื้อดิบมาใช้ซ้ำ 

อย่าใช้ภาชนะที่เก็บเนื้อดิบซ้ำ ควรจัดเก็บอาหารอย่างเหมาะสมโดยใช้จาน ช้อนส้อม เคาน์เตอร์ที่สะอาด และปิดฝาอาหารที่เหลือให้สนิทก่อนนำไปแช่เย็น หรือหากต้องการใช้ภาชนะนั้นซ้ำ ควรทำความสะอาดด้วยสบู่และน้ำอุ่นเป็นเวลาอย่างน้อย 20 วินาทีก่อนที่จะใช้อีกครั้ง

7.ให้อากาศหมุนเวียน

หลีกเลี่ยงการบรรจุอาหารในตู้เย็นหรือช่องแช่แข็งจนอากาศไม่สามารถถ่ายเทได้

 

ทำความรู้จักกับช่องแช่แข็ง

ตู้แช่แข็งควรตั้งไว้ที่ 0° F (-18° C) หรือต่ำกว่านั้น และควรมีการตรวจสอบเทอร์โมมิเตอร์ตู้เย็น/ตู้แช่แข็งเป็นประจำเพื่อให้สามารถอ่านค่าอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำ

แบคทีเรียส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกทำลายโดยการแช่แข็ง แม้ว่าอาหารจะยังคงปลอดภัยที่อุณหภูมิ 0° F แต่คุณภาพก็สามารถเสื่อมลงได้เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งที่จะเสื่อมลง ได้แก่ สี ความชุ่มฉ่ำ รสชาติ วิธีที่ดีที่สุดในการจัดเก็บของให้เกิดความเสื่อมน้อยที่สุด คือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์

สารอาหารจะไม่ลดลงจากการแช่แข็ง เมื่ออาหารถูกแช่แข็ง ปริมาณโปรตีนจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย การแช่แข็งอาจทำให้สารอาหารบางอย่างเสื่อมสภาพลงเมื่อเวลาผ่านไป การสูญเสียสารอาหารขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ รวมถึงประเภทของอาหารที่ถูกแช่แข็ง ระยะเวลาในการจัดเก็บ และอุณหภูมิ ตัวอย่างเช่น การแช่แข็งอาจทำให้วิตามินซีซึ่งเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำแตกตัวได้ ในทางกลับกัน แร่ธาตุที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการแช่แข็ง ก็อาจมีการสูญเสียไปในระหว่างกระบวนการปรุงอาหาร ดังนั้น เพื่อรักษาสารอาหารไว้ เมื่อซื้อวัตถุดิบมาควรนำไปแช่แข็งทันทีและจัดเก็บอาหารอย่างเหมาะสม เช่น ในภาชนะสูญญากาศหรือถุงแช่แข็งที่อุณหภูมิ 0°F หรือต่ำกว่า

 

สิ่งสำคัญคือต้องรู้วิธีเก็บอาหารอย่างปลอดภัย

สินค้ากระป๋องควรได้รับการตรวจสอบความเสียหายก่อนเปิดใช้งานทุกครั้ง: กระป๋องที่มีรอยบุบหมายความว่าอาจมีอากาศเข้าไปในกระป๋องระหว่างการผลิต ซึ่งอาจทำให้มีแบคทีเรียได้ ดังนั้นควรทิ้งทันที เพราะมีความชื้นหลงเหลืออยู่ภายใน และตรวจสอบว่ามีชิ้นส่วนที่ได้รับความเสียหายหรือไม่ ซึ่งอาจมีสารเคมีที่เป็นอันตรายเข้าไปในภาชนะดังกล่าว 

 

สำหรับชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน ทำให้เราแทบจะไม่มีเวลาในการเข้าครัว แต่สิ่งสำคัญคือต้องรู้จักเก็บอาหารอย่างปลอดภัย เพื่อหลีกเลี่ยงการเน่าเสียจากอาหารและรักษาความสดใหม่ของอาหารให้คงอยู่ ในบทความนี้ เราจะกล่าวถึงวิธีการเก็บรักษาอาหารและการใช้งานช่องแช่แข็งเพื่อให้อาหารของคุณอยู่ในสภาพดี

 

เคล็ดลับในการเก็บรักษาอาหารเพื่อช่วยให้อาหารไม่เน่าเสีย

การเก็บรักษาอาหารที่ถูกวิธีจะสามารถช่วยให้อาหารเกิดการเน่าเสียช้าลง คุณสามารถป้องกันความเน่าเสียได้โดยปฏิบัติตามแนวทางการจัดเก็บเหล่านี้:

 

1.ตรวจสอบฉลากสำหรับคำแนะนำในการจัดเก็บ

นอกจากเนื้อสัตว์ ผัก และผลิตภัณฑ์จากนม ยังมีสินค้าชนิดอื่นๆ อีกมากมายที่จำเป็นต้องแช่เย็น ซึ่งหากคุณไม่ได้แช่เย็นตามฉลากคำแนะนำ ควรรีบใช้วัตถุดิบเหล่านั้นให้หมดหรือนำไปทิ้งเพื่อไม่ให้เกิดการเน่าเสียจนส่งกลิ่นเหม็น 

2.รักษาอุณหภูมิของเครื่องใช้ไฟฟ้า

ควรตั้งค่าช่องแช่แข็งไว้ที่ 0° F (-18° C) วิธีที่ดีที่สุดในการวัดอุณหภูมิคือการใช้เทอร์โมมิเตอร์สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า ควรตรวจสอบอุณหภูมิอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง 

3.ใช้วัตถุดิบที่เตรียมไว้มาทำอาหารให้เร็วที่สุด

ควรใช้วัตถุดิบที่แช่เย็นไว้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น เนื้อสัตว์ เพราะยิ่งเก็บไว้ในตู้เย็นนานขึ้น โดยเฉพาะที่อุณหภูมิสูงกว่า 40° F (4° C) โอกาสที่แบคทีเรียจะเกิดจากอาหารจะยิ่งมีมากขึ้น

4.ของเน่าเสียง่ายควรแช่เย็นหรือแช่แข็งทันที

ทันทีที่คุณกลับถึงบ้าน ควรใส่อาหารที่ต้องแช่เย็นไว้ในตู้เย็น และเมื่อนำผลิตภัณฑ์ไว้ที่อุณหภูมิห้องให้ปฏิบัติตาม "กฎสองชั่วโมง" คือห้ามปล่อยให้เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ หรืออาหารอื่นๆ ที่ต้องแช่เย็น วางทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องนานกว่าสองชั่วโมง 

5.ระวังอาหารเน่าเสีย

ควรกำจัดวัตถุดิบที่เริ่มส่งกลิ่นหรือมีเชื้อราทิ้งไป แม้ว่าเชื้อราจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพเพียงเล็กน้อย แต่ก็สามารถทำให้อาหารมีรสชาติที่ผิดเพี้ยนไปได้ 

6.อย่านำภาชนะที่เคยบรรจุเนื้อดิบมาใช้ซ้ำ 

อย่าใช้ภาชนะที่เก็บเนื้อดิบซ้ำ ควรจัดเก็บอาหารอย่างเหมาะสมโดยใช้จาน ช้อนส้อม เคาน์เตอร์ที่สะอาด และปิดฝาอาหารที่เหลือให้สนิทก่อนนำไปแช่เย็น หรือหากต้องการใช้ภาชนะนั้นซ้ำ ควรทำความสะอาดด้วยสบู่และน้ำอุ่นเป็นเวลาอย่างน้อย 20 วินาทีก่อนที่จะใช้อีกครั้ง

7.ให้อากาศหมุนเวียน

หลีกเลี่ยงการบรรจุอาหารในตู้เย็นหรือช่องแช่แข็งจนอากาศไม่สามารถถ่ายเทได้

 

ทำความรู้จักกับช่องแช่แข็ง

ตู้แช่แข็งควรตั้งไว้ที่ 0° F (-18° C) หรือต่ำกว่านั้น และควรมีการตรวจสอบเทอร์โมมิเตอร์ตู้เย็น/ตู้แช่แข็งเป็นประจำเพื่อให้สามารถอ่านค่าอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำ

แบคทีเรียส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกทำลายโดยการแช่แข็ง แม้ว่าอาหารจะยังคงปลอดภัยที่อุณหภูมิ 0° F แต่คุณภาพก็สามารถเสื่อมลงได้เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งที่จะเสื่อมลง ได้แก่ สี ความชุ่มฉ่ำ รสชาติ วิธีที่ดีที่สุดในการจัดเก็บของให้เกิดความเสื่อมน้อยที่สุด คือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์

สารอาหารจะไม่ลดลงจากการแช่แข็ง เมื่ออาหารถูกแช่แข็ง ปริมาณโปรตีนจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย การแช่แข็งอาจทำให้สารอาหารบางอย่างเสื่อมสภาพลงเมื่อเวลาผ่านไป การสูญเสียสารอาหารขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ รวมถึงประเภทของอาหารที่ถูกแช่แข็ง ระยะเวลาในการจัดเก็บ และอุณหภูมิ ตัวอย่างเช่น การแช่แข็งอาจทำให้วิตามินซีซึ่งเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำแตกตัวได้ ในทางกลับกัน แร่ธาตุที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการแช่แข็ง ก็อาจมีการสูญเสียไปในระหว่างกระบวนการปรุงอาหาร ดังนั้น เพื่อรักษาสารอาหารไว้ เมื่อซื้อวัตถุดิบมาควรนำไปแช่แข็งทันทีและจัดเก็บอาหารอย่างเหมาะสม เช่น ในภาชนะสูญญากาศหรือถุงแช่แข็งที่อุณหภูมิ 0°F หรือต่ำกว่า

 

สิ่งสำคัญคือต้องรู้วิธีเก็บอาหารอย่างปลอดภัย

สินค้ากระป๋องควรได้รับการตรวจสอบความเสียหายก่อนเปิดใช้งานทุกครั้ง: กระป๋องที่มีรอยบุบหมายความว่าอาจมีอากาศเข้าไปในกระป๋องระหว่างการผลิต ซึ่งอาจทำให้มีแบคทีเรียได้ ดังนั้นควรทิ้งทันที เพราะมีความชื้นหลงเหลืออยู่ภายใน และตรวจสอบว่ามีชิ้นส่วนที่ได้รับความเสียหายหรือไม่ ซึ่งอาจมีสารเคมีที่เป็นอันตรายเข้าไปในภาชนะดังกล่าว 

 

 

บทสรุป

วิธีที่ดีที่สุดในการเก็บรักษาอาหารให้ปลอดภัยคือการรักษาความเย็นและหลีกเลี่ยงการปนเปื้อน ซึ่งหมายความว่าคุณควรเก็บอาหารที่เน่าเสียง่ายไว้ในตู้เย็นหรือช่องแช่แข็ง ตัวอย่างเช่น หากคุณซื้ออกไก่และจะไม่ทานในทันที ให้คุณนำไปใส่ในช่องแช่แข็งจนกว่าจะใช้ นอกจากนี้ ควรล้างมือให้สะอาดก่อนหยิบจับอาหาร

ติดต่อกับเราได้ผ่านช่องทาง FacebookInstagramTikTokTwitter & YouTube

เพื่อติดตามข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับ TCL โปรดักส์และกิจกรรม

บทสรุป

วิธีที่ดีที่สุดในการเก็บรักษาอาหารให้ปลอดภัยคือการรักษาความเย็นและหลีกเลี่ยงการปนเปื้อน ซึ่งหมายความว่าคุณควรเก็บอาหารที่เน่าเสียง่ายไว้ในตู้เย็นหรือช่องแช่แข็ง ตัวอย่างเช่น หากคุณซื้ออกไก่และจะไม่ทานในทันที ให้คุณนำไปใส่ในช่องแช่แข็งจนกว่าจะใช้ นอกจากนี้ ควรล้างมือให้สะอาดก่อนหยิบจับอาหาร

 

ติดต่อกับเราได้ผ่านช่องทาง FacebookInstagramTikTokTwitter & YouTube

เพื่อติดตามข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับ TCL โปรดักส์และกิจกรรม

2023-06-26