ระหว่างการใช้งานประจำวัน ตู้เย็นมักจะสะสมสิ่งสกปรก กลิ่น และแบคทีเรียซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณได้ง่าย ด้วยเหตุนี้ สิ่งที่สำคัญก็คือ คุณจะต้องทำความสะอาดตู้เย็นให้ทั่วอย่างสม่ำเสมอ (แนะนำให้คุณทำความสะอาดตู้เย็นเดือนละครั้ง)ขั้นตอนของการทำความสะอาดตู้เย็นมีดังต่อไปนี้:
1.ก่อนที่จะทำความสะอาดตู้เย็น ก่อนอื่นคุณจะต้องปิดเครื่อง ถอดปลั๊กไฟ และนำอาหารที่เก็บไว้ในตู้เย็นออกมา
2.เริ่มจากการเช็ดที่ด้านนอกของตู้เย็นก่อนโดยใช้ผ้านุ่มชุบน้ำอุ่นหรือสารทำความสะอาดที่เป็นกลาง จากนั้นจึงเช็ดให้แห้งโดยใช้ผ้าสะอาดนุ่มๆ
3. เปิดประตูของตู้เย็น นำที่ใส่ขวด ชั้นกระจก และลิ้นชักในตู้เย็นและช่องแช่แข็งออก จากนั้นจึงขัดตู้เย็นด้วยผ้านุ่มชุบน้ำและสารทำความสะอาดที่เป็นกลางหลังจากขัดแล้ว คุณจะต้องเช็ดตู้เย็นด้วยผ้าแห้ง หรือตั้งตู้เย็นไว้ในที่ซึ่งระบายอากาศดีเพื่อให้ตู้เย็นแห้ง
4.คุณจะต้องไม่ใช้สารทำความสะอาดที่มีฤทธิ์เป็นด่างหรือด่างอ่อนๆ ผงซักล้าง ผงขัด น้ำเดือด ตัวทำละลายที่เป็นกรดอินทรีย์ในการทำความสะอาดตู้เย็นเพื่อป้องกันความเสียหายต่อชั้นเคลือบผิวที่ด้านนอกของตู้เย็นและชิ้นส่วนที่เป็นพลาสติกที่ด้านในของตู้เย็น
5. รอให้ชั้นน้ำแข็งในช่องแช่แข็งละลายเอง ระหว่างที่รอให้น้ำแข็งละลาย ให้คุณวางผ้าขนหนูไว้ที่ด้านล่างของตู้เย็นเพื่อดูดซับน้ำและเพื่อป้องกันน้ำส่วนเกินจากการทำความสะอาดห้ามใช้วัตถุมีคมในการแซะน้ำแข็งที่อยู่บนคอยล์เย็นเพราะวัตถุมีคมดังกล่าวจะขูดกับคอยล์เย็นได้ง่าย
6.หลังจากน้ำแข็งละลายหมดแล้ว ให้คุณเริ่มขัดที่ช่องแช่แข็งก่อน คุณสามารถใช้ผ้านุ่มชุบน้ำและสารทำความสะอาดที่เป็นกลางในการเช็ดได้ แต่เมื่อคุณต้องเช็ดองค์ประกอบต่างๆ ของตู้เย็นอย่างสวิตช์ หลอดไฟ และอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิ โปรดบิดผ้านุ่มให้แห้งก่อนที่จะคุณจะเช็ดอุปกรณ์ดังกล่าว
7. ปะเก็นประตูมักจะเปื้อนสิ่งสกปรกต่างๆ เช่น น้ำซุปและน้ำผลไม้ ทำให้ปะเก็นประตูได้รับความเสียหาย และเกิดการรั่วไหลของอากาศเย็นได้ง่ายแนะนำให้คุณถอดปะเก็นประตูออกมาทำความสะอาด เช็ดให้แห้งด้วยผ้าแห้ง ทำให้ปะเก็นประตูเรียบแบน และให้ความร้อนให้ทั่วถึงโดยใช้เครื่องเป่าผมเพื่อฟื้นคืนความยืดหยุ่นของปะเก็นประตู จากนั้นจึงใส่ปะเก็นประตูกลับเข้าไป
8. หลังจากทำความสะอาดส่วนต่างๆ แล้ว ให้คุณเปิดประตูตู้เย็นทิ้งไว้ หลังจากตู้เย็นแห้งสนิทแล้ว ให้คุณใส่ที่วางขวด ชั้นกระจก ลิ้นชัก และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ กลับเข้าไป
9.เสียบปลั๊กไฟให้แน่น ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิได้รับการตั้งค่าในตำแหน่งที่ถูกต้องหรือไม่ เริ่มต้นใช้งานตู้เย็น รอประมาณหนึ่งชั่วโมง ตรวจสอบว่าอุณหภูมิในตู้เย็นลดลงหรือไม่ และใส่อาหารกลับเข้าไปในตู้เย็นอีกครั้ง