เลือกประเทศอื่นเพื่อรับบริการ

MiniLED กับ QLED: เทคโนโลยี TV ใดที่ตอบสนองความต้องการของคุณได้ดีที่สุดในปี 2022?

2022-12-15

2022-12-15

 

 

 

    ตลาดของเทคโนโลยีการแสดงผลมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องอย่างที่เราจะเห็นได้ว่ามีเทคโนโลยี TV ใหม่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในบทความนี้ เราจะช่วยให้คุณเข้าใจอักษรย่อสำหรับเทคโนโลยี TV อธิบายวิธีการทำงานของหน้าจอแต่ละประเภทรวมถึงประเมินข้อดีและข้อเสียของแต่ละตัวเลือกเพื่อที่คุณจะสามารถมีตัวเลือกที่เต็มไปด้วยข้อมูลว่าผลิตภัณฑ์ใดที่เหมาะสมกับศูนย์รวมความบันเทิงในบ้านของคุณมากที่สุด

    QLED TV และ Mini LED TV ได้กลายมาเป็นผลิตภัณฑ์สองประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา รวมถึงได้รับความสนใจเป็นจำนวนมากจากผุ้บริโภคและสื่อต่างๆ ว่าแต่ QLED TV คืออะไรกันแน่? อะไรที่ทำให้ TV ประเภทนี้แตกต่างไปจากโทรทัศน์ประเภทอื่นๆ? และคุณจำเป็นต้องมี TV นี้สักเครื่องหรือไม่?เราจะตอบทุกคำถามข้างต้นในบทความนี้เพื่อที่คุณจะได้สามารถทำการตัดสินใจอย่างมีข้อมูลว่า QLED TV สามารถตอบสนองความต้องการในการรับชมของคุณได้ดีที่สุดในปี 2022 หรือไม่

    นอกจากนี้ เรายังจะกล่าวถึงอีกหนึ่งหัวข้อสุดฮอตนั่นก็คือ: Mini LED คืออะไร? หลายคนอาจจะรู้สึกสับสนระหว่าง Mini LED TV กับ Micro LED (เราจะกล่าวถึงเรื่องนี้ในภายหลัง)ในขณะที่มีความคล้ายคลึงบางประการระหว่างผลิตภัณฑ์ทั้งสองประเภท แต่ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวใช้เทคโนโลยีที่ค่อนข้างจะแตกต่างกัน ทำให้ผลิตภัณฑ์แต่ละประเภทมีคุณประโยชน์และข้อด้อยที่ไม่เหมือนกัน

 

การทำความเข้าใจอักษรย่อสำหรับเทคโนโลยี TV

    คุณอาจจะเคยสังเกตว่า มีอักษรย่อสำหรับเทคโนโลยี TV อยู่เป็นจำนวนมากในปัจจุบัน เมื่อมีการแนะนำเทคโนโลยีใหม่ ก็จะมีการสร้างอักษรย่อใหม่ขึ้นมาเพื่อใช้กับเทคโนโลยีดังกล่าว จนทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับคุณในการติดตามอักษรย่อทั้งหมดยิ่งไปกว่านั้น ผู้ผลิตโทรทัศน์ยังมักใช้ชื่อที่ออกเสียงคล้ายกันซึ่งไม่ได้มีความหมายที่จำเป็นอะไรมากนักในแง่ของการให้คำจำกัดความแก่ผลิตภัณฑ์หรือประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์

นี่คือคู่มือฉบับเร่งด่วน:

  • LCD: LCD TV เป็นเทคโนโลยีจอภาพของโทรทัศน์ซึ่งเป็นไปตามจอภาพผลึกเหลว
  • LED: LED TV เป็นประเภทหนึ่งของโทรทัศน์ LCD ที่ใช้ไดโอดเปล่งแสง (LED) ในการให้แสงที่ส่องจากด้านหลังแก่จอภาพ
  • OLED: OLED TV เป็นเทคโนโลยีจอภาพของโทรทัศน์ซึ่งเป็นไปตามคุณลักษณะของไดโอดเปล่งแสงอินทรีย์ (OLED)
  • Mini LED: Mini-LED มีลักษณะคล้ายกับ QLED แต่ไฟแบ็คไลท์ของ Mini-LED จะมีขนาดเล็กกว่า เราจะใช้เทคโนโลยี Mini LED ของ TCL เป็นตัวอย่างพร้อมการทำความเข้าใจในทุกรายละเอียดของการเปลี่ยนแปลงแสงและเงา ความมืดและความสว่างที่สมบูรณ์ก็จะได้รับการเปิดเผย เพิ่มพื้นที่การหรี่แสงเฉพาะจุดเป็น 4,000+ พื้นที่ (หมายเหตุ: 4000+ พาร์ทิชันเป็นข้อมูลของห้องปฏิบัติการในปี 2022 พื้นที่การหรี่แสงเฉพาะจุดจำนวน 2,304 พื้นที่ได้รับการผลิตสำหรับผลิตภัณฑ์รุ่นต่างๆ) เพื่อให้ได้การควบคุมแสงและรายละเอียดของภาพที่แม่นยำ เทคโนโลยีการหรี่แสงเฉพาะจุดปรับปรุงปรากฏการณ์ที่ได้รับความนิยมของขอบ TV กับพื้นหลังสีดำ

 

ทำความเข้าใจกับไฟแบ็คไลท์ของ TV

    การรู้จักประเภทต่างๆ ของไฟแบ็คไลท์ถือเป็นเรื่องสำคัญเนื่องจากจะช่วยให้คุณเข้าใจความแตกต่างระหว่าง TV ซึ่งใช้เทคโนโลยีจอภาพที่แตกต่างกัน

    ไฟแบ็คไลท์เป็นแหล่งกำเนิดแสงซึ่งอยู่ที่ด้านหลังจอภาพ การเปล่งแสงของไฟแบ็คไลท์จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อประสิทธิภาพการมองเห็นของโมดูลจอภาพผลึกเหลว (LCM)ตัว LCD เองไม่ได้ปล่อยแสง แต่จะแสดงกราฟิกหรือคุณลักษณะซึ่งเป็นผลมาจากการกล้ำสัญญาณของแสง

    ประเภทของไฟแบ็คไลท์ที่พบได้มากที่สุดใน LCD (และ LED) ได้แก่หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์แคโทดเย็น (CCFL) และไฟ LED ซึ่งสว่างเฉพาะตรงขอบ ไฟ LED ซึ่งสว่างเฉพาะตรงขอบมีความเรียบง่าย มีประสิทธิภาพ และมอบแสงสว่างเพื่อป้องกันไม่ให้บางบริเวณของจอภาพสว่างมากกว่าบริเวณอื่น หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์แคโทดเย็นจะแปลงพลังงานไฟฟ้าให้เป็นแสงซึ่งจะเปล่งแสงผ่านแผงจอภาพCCFL ได้รับการนำมาใช้งานตั้งแต่วันแรกๆ ที่มีโทรทัศน์ และยังคงได้รับการใช้งานมาจนถึงทุกวันนี้เนื่องจากให้แสงที่สว่างจ้าในมุมกว้าง แต่ใช้กำลังไฟขาออกต่ำสุดและก่อให้เกิดความร้อนต่ำ

    อีกประเภทหนึ่งของไฟแบ็คไลท์สำหรับ LCD/LED TV จะใช้ LED อินทรีย์ (OLED) โดยที่ OLED เป็นอักษรย่อของ Organic Light-Emitting Diode หรือที่รู้จักกันในชื่อของไดโอดเปล่งแสงอินทรีย์หรือจอภาพเปล่งแสงอินทรีย์นั่นเอง ในแง่ของคุณลักษณะการทำงานนั้น ความแตกด่างที่สำคัญที่สุดระหว่าง OLED และ LCD จะอยู่ที่การส่องสว่างในตัวเองซึ่งจะตัดสินว่าหน้าจอที่ใช้เทคโนโลยี OLED จะบางกว่าและเบากว่า พิกเซลของ LCD จะได้รับการส่องสว่างโดยไฟแบ็คไลท์พิกเซลของ OLED จะสร้างแสงของตัวเอง จึงกำจัดความจำเป็นในส่วนของหลอดไฟแบ็คไลท์แบบแยก

    เทคโนโลยี OLED จะให้เปล่งแสงออกมาเมื่อกระแสไฟฟ้าผ่านเข้าไปในนั้นจากอิเล็กโทรดที่วางอยู่ที่บนด้านใดด้านหนึ่งของแต่ละพิกเซลในแผงจอภาพที่ทำมาจากชั้นบางๆ ของวัสดุอินทรีย์ เช่น ซิลิคอนคาร์ไบด์แบบไม่มีรูปร่างหรือพอลิเอทิลีนเทเรฟทาเลต (PET)

 

Mini LED กับ QLED: อะไรคือความแตกต่าง?

    เนื่องจากใช้ระบบไฮเอนด์ OLED และ Mini-LED จึงเป็นเทคโนโลยีในระดับพรีเมียมที่มอบภาพซึ่งเป็นที่ต้องการในปัจจุบัน OLED อาจจะมีศักยภาพสำหรับช่วงชีวิตที่สั้นกว่า แต่ให้ความคมชัดที่ดีกว่าเล็กน้อยในส่วนของเทคโนโลยี QLED นั้น เทคโนโลยีดังกล่าวมอบการปรับปรุงที่เหนือกว่า LED แบบดั้งเดิม และไม่ได้ลดทอนสิ่งใดในขณะที่ความคมชัดระหว่างแสงสว่างกับความมืดไม่ได้ตายตัวเหมือนกับเทคโนโลยีอื่นๆ บางเทคโนโลยี

    Mini LED TV เป็นประเภทใหม่ของ LED TV ซึ่งมีไฟแบ็คไลท์ขนาดเล็กกว่า LCD TV และมีอัตราส่วนความคมชัดที่ดีกว่า Mini LED TV มีความอิ่มตัวของสีที่ดีกว่าเช่นกัน

    TCL เป็นบริษัทแรกที่ผลิต Mini LED TV และไม่เคยหยุดการพัฒนาในเรื่องนี้ Mini LED TV ของ TCL ซึ่งใช้เทคโนโลยีการหรี่แสงเฉพาะจุดมอบคุณภาพของภาพที่ดีที่สุดให้แก่คุณ เทคโนโลยีการหรี่แสงเฉพาะจุดช่วยให้คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของการเปลี่ยนแปลงแสงและเงาของ TV ได้ ด้วยบริเวณการหรี่แสงเฉพาะจุดถึง 4,000+ บริเวณ เทคโนโลยีนี้จึงมอบรายละเอียดของภาพที่มากขึ้นบนหน้าจอของคุณ นี่เป็นฟีเจอร์สำคัญในการได้มาซึ่งอัตราส่วนความคมชัดที่สูงมากด้วยเทคโนโลยีนี้ คุณจะสามารถเต็มอิ่มไปกับประสบการณ์การรับชมที่ยอดเยี่ยมเมื่อชมภาพยนตร์หรือเล่นเกม

    นอกจากเทคโนโลยีการหรี่แสงเฉพาะจุดแล้ว การใช้ไดรเวอร์อัลกอริทึมตัวใหม่ทำให้ความสว่างสูงสุดของ LED มีมากกว่า 2,000 นิท ตลอดจนมอบการการสนับสนุนที่แข็งแกร่งให้แก่ผู้ใช้ในการเพลิดเพลินไปกับภาพยนตร์และเกมซึ่งมีความละเอียดสูงระดับ HDR

 

    Mini LED มีความละเอียดเหมือนกันกับประเภทอื่นๆ ของ LED TV และสามารถแสดงภาพแบบ Full HD, 4K หรือแมแต่ 8K แต่ MiniLED สามารถแสดงภาพ 4K ได้ด้วยความเสถียรมากกว่า LED ทั่วไป เทคโนโลยีดังกล่าวมอบพิสัยที่กว้างของขนาดหน้าจอและความสว่างของหน้าจอเพื่อให้ตรงตามความต้องการของคุณ MiniLED มีข้อได้เปรียบสำคัญเหนือประเภทอื่นๆ ของ TV จอแบนนั่นก็คือราคาเราจะใช้ OLED TV เป็นตัวอย่างของเรื่องนี้ เมื่อพูดถึงโดยทั่วไปนั้น สำหรับ TV ที่มีขนาดเดียวกัน การตั้งราคาของ Mini LED TV จะอยู่แค่ที่ 60% ถึง 80% ของ OLED TV เท่านั้น

    QLED TV เป็น LCD TV ที่ใช้ไฟแบ็คไลท์ LED QLED ย่อมาจาก Quantum Dot Light Emitting Diode ซึ่งจะหมายถึงควอนตัมดอทที่ใช้ในจอภาพดังกล่าว ไอเดียที่อยู่เบื้องหลังควอนตัมดอทก็คือ หลังจากดูดซับแสงสีน้ำเงิน (คลื่นสั้น) จากไฟแบ็คไลท์แล้ว ควอนตัมดอทจะเกิดการก้าวกระโดดของระดับพลังงานในการผลิตคลื่นแสงสีแดงและสีเขียวเพื่อแสดงสามสีหลักซึ่งมีความบริสุทธิ์สูงคือสีแดง สีเขียว และสีน้ำเงิน วัสดุแสงของควอนตัมดอทจะเปล่งแสงเมื่อถูกกระตุ้นด้วยไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายไฟของ TV เช่นกัน เรื่องดังกล่าวทำให้ QLED TV สามารถแสดงสีที่มีชีวิตชีวาได้มากกว่า LCD/LED TV ทั่วไปโดยไม่ต้องใช้ฟิลเตอร์สีหรือสีย้อมใดภายในหน้าจอ (เหมือนอย่างที่ OLED ทำ)นี่เองคือสาเหตุที่ทำให้ QLED TV สามารถสร้างสีที่มีชีวิตชีวามากที่สุดและลึกล้ำที่สุดซึ่งเราสามารถเห็นได้บน LCD TV

    TV ทั้งสองประเภทมอบมุมการรับชมที่ยอดเยี่ยม แต่จะมีความแตกต่างในเรื่องของการเปลี่ยนสีที่จะเกิดขึ้นตามตำแหน่งที่คุณนั่งใกล้กับหน้าจอ (เนื่องจากวิธีที่แต่ละเทคโนโลยีใช้ในการผลิตภาพ)

 

ความมุ่งมั่นของ TCL ที่มีต่อคุณภาพของภาพระดับผู้ชนะรางวัล

    TCL มุ่งมั่นในการส่งมอบคุณภาพของภาพระดับผู้ชนะรางวัลโทรทัศน์ในซีรีส์ที่เป็นซิกเนเจอร์ระดับชนะรางวัลของบริษัทได้รับรางวัลต่างๆ จำนวนมาก

    TCL ได้ทำงานร่วมกับผู้นำของอุตสาหกรรมอย่าง Dolby Laboratories เพื่อสร้างสรรค์อัลกอริทึมแบบมีกรรมสิทธิ์ของตนเองซึ่งส่งมอบความแม่นยำของสีที่เหนือระดับและระดับความสว่างที่สว่างมากกว่า OLED TV อื่นที่มีอยู่ในท้องตลาดในปัจจุบันถึง 50%

 

บทสรุป

    กล่าวโดยสรุปก็คือ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญในการทราบว่า มีเทคโนโลยี TV ต่างๆ อยู่เป็นจำนวนมากในท้องตลาดในปัจจุบัน แต่ไม่ใช่ว่าเทคโนโลยีทั้งหมดจะเหมาะสมสำหรับทุกคน สิ่งที่สำคัญก็คือการเลือกเทคโนโลยีที่สามารถตอบสนองความต้องการของคุณได้ดีที่สุด ไม่ว่าคุณจะอยากได้ QLED TV หรือ Mini LED TV ในปี 2022 TCL TV มีครบทุกสิ่งที่คุณต้องการ QLED และ Mini LED TV รุ่นใหม่ๆ ของ TCL ได้รับการออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนแปลงวิธีการรับชม TV ของคุณดูที่เว็บไซต์ของ TCL เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม

 

    เชื่อมต่อกับเราทาง FacebookInstagramTwitterTiktok และ YouTube สำหรับการอัปเดต ผลิตภัณฑ์ TCL และกิจกรรมล่าสุดของเรา

 

 

2022-12-15