สำหรับชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน ทำให้เราแทบจะไม่มีเวลาในการเข้าครัว แต่สิ่งสำคัญคือต้องรู้จักเก็บอาหารอย่างปลอดภัย เพื่อหลีกเลี่ยงการเน่าเสียจากอาหารและรักษาความสดใหม่ของอาหารให้คงอยู่ ในบทความนี้ เราจะกล่าวถึงวิธีการเก็บรักษาอาหารและการใช้งานช่องแช่แข็งเพื่อให้อาหารของคุณอยู่ในสภาพดี
เคล็ดลับในการเก็บรักษาอาหารเพื่อช่วยให้อาหารไม่เน่าเสีย
การเก็บรักษาอาหารที่ถูกวิธีจะสามารถช่วยให้อาหารเกิดการเน่าเสียช้าลง คุณสามารถป้องกันความเน่าเสียได้โดยปฏิบัติตามแนวทางการจัดเก็บเหล่านี้:
1.ตรวจสอบฉลากสำหรับคำแนะนำในการจัดเก็บ
นอกจากเนื้อสัตว์ ผัก และผลิตภัณฑ์จากนม ยังมีสินค้าชนิดอื่นๆ อีกมากมายที่จำเป็นต้องแช่เย็น ซึ่งหากคุณไม่ได้แช่เย็นตามฉลากคำแนะนำ ควรรีบใช้วัตถุดิบเหล่านั้นให้หมดหรือนำไปทิ้งเพื่อไม่ให้เกิดการเน่าเสียจนส่งกลิ่นเหม็น
2.รักษาอุณหภูมิของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ควรตั้งค่าช่องแช่แข็งไว้ที่ 0° F (-18° C) วิธีที่ดีที่สุดในการวัดอุณหภูมิคือการใช้เทอร์โมมิเตอร์สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า ควรตรวจสอบอุณหภูมิอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
3.ใช้วัตถุดิบที่เตรียมไว้มาทำอาหารให้เร็วที่สุด
ควรใช้วัตถุดิบที่แช่เย็นไว้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น เนื้อสัตว์ เพราะยิ่งเก็บไว้ในตู้เย็นนานขึ้น โดยเฉพาะที่อุณหภูมิสูงกว่า 40° F (4° C) โอกาสที่แบคทีเรียจะเกิดจากอาหารจะยิ่งมีมากขึ้น
4.ของเน่าเสียง่ายควรแช่เย็นหรือแช่แข็งทันที
ทันทีที่คุณกลับถึงบ้าน ควรใส่อาหารที่ต้องแช่เย็นไว้ในตู้เย็น และเมื่อนำผลิตภัณฑ์ไว้ที่อุณหภูมิห้องให้ปฏิบัติตาม "กฎสองชั่วโมง" คือห้ามปล่อยให้เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ หรืออาหารอื่นๆ ที่ต้องแช่เย็น วางทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องนานกว่าสองชั่วโมง
5.ระวังอาหารเน่าเสีย
ควรกำจัดวัตถุดิบที่เริ่มส่งกลิ่นหรือมีเชื้อราทิ้งไป แม้ว่าเชื้อราจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพเพียงเล็กน้อย แต่ก็สามารถทำให้อาหารมีรสชาติที่ผิดเพี้ยนไปได้
6.อย่านำภาชนะที่เคยบรรจุเนื้อดิบมาใช้ซ้ำ
อย่าใช้ภาชนะที่เก็บเนื้อดิบซ้ำ ควรจัดเก็บอาหารอย่างเหมาะสมโดยใช้จาน ช้อนส้อม เคาน์เตอร์ที่สะอาด และปิดฝาอาหารที่เหลือให้สนิทก่อนนำไปแช่เย็น หรือหากต้องการใช้ภาชนะนั้นซ้ำ ควรทำความสะอาดด้วยสบู่และน้ำอุ่นเป็นเวลาอย่างน้อย 20 วินาทีก่อนที่จะใช้อีกครั้ง
7.ให้อากาศหมุนเวียน
หลีกเลี่ยงการบรรจุอาหารในตู้เย็นหรือช่องแช่แข็งจนอากาศไม่สามารถถ่ายเทได้
ทำความรู้จักกับช่องแช่แข็ง
ตู้แช่แข็งควรตั้งไว้ที่ 0° F (-18° C) หรือต่ำกว่านั้น และควรมีการตรวจสอบเทอร์โมมิเตอร์ตู้เย็น/ตู้แช่แข็งเป็นประจำเพื่อให้สามารถอ่านค่าอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำ
แบคทีเรียส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกทำลายโดยการแช่แข็ง แม้ว่าอาหารจะยังคงปลอดภัยที่อุณหภูมิ 0° F แต่คุณภาพก็สามารถเสื่อมลงได้เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งที่จะเสื่อมลง ได้แก่ สี ความชุ่มฉ่ำ รสชาติ วิธีที่ดีที่สุดในการจัดเก็บของให้เกิดความเสื่อมน้อยที่สุด คือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์
สารอาหารจะไม่ลดลงจากการแช่แข็ง เมื่ออาหารถูกแช่แข็ง ปริมาณโปรตีนจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย การแช่แข็งอาจทำให้สารอาหารบางอย่างเสื่อมสภาพลงเมื่อเวลาผ่านไป การสูญเสียสารอาหารขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ รวมถึงประเภทของอาหารที่ถูกแช่แข็ง ระยะเวลาในการจัดเก็บ และอุณหภูมิ ตัวอย่างเช่น การแช่แข็งอาจทำให้วิตามินซีซึ่งเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำแตกตัวได้ ในทางกลับกัน แร่ธาตุที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการแช่แข็ง ก็อาจมีการสูญเสียไปในระหว่างกระบวนการปรุงอาหาร ดังนั้น เพื่อรักษาสารอาหารไว้ เมื่อซื้อวัตถุดิบมาควรนำไปแช่แข็งทันทีและจัดเก็บอาหารอย่างเหมาะสม เช่น ในภาชนะสูญญากาศหรือถุงแช่แข็งที่อุณหภูมิ 0°F หรือต่ำกว่า
สิ่งสำคัญคือต้องรู้วิธีเก็บอาหารอย่างปลอดภัย
สินค้ากระป๋องควรได้รับการตรวจสอบความเสียหายก่อนเปิดใช้งานทุกครั้ง: กระป๋องที่มีรอยบุบหมายความว่าอาจมีอากาศเข้าไปในกระป๋องระหว่างการผลิต ซึ่งอาจทำให้มีแบคทีเรียได้ ดังนั้นควรทิ้งทันที เพราะมีความชื้นหลงเหลืออยู่ภายใน และตรวจสอบว่ามีชิ้นส่วนที่ได้รับความเสียหายหรือไม่ ซึ่งอาจมีสารเคมีที่เป็นอันตรายเข้าไปในภาชนะดังกล่าว
สำหรับชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน ทำให้เราแทบจะไม่มีเวลาในการเข้าครัว แต่สิ่งสำคัญคือต้องรู้จักเก็บอาหารอย่างปลอดภัย เพื่อหลีกเลี่ยงการเน่าเสียจากอาหารและรักษาความสดใหม่ของอาหารให้คงอยู่ ในบทความนี้ เราจะกล่าวถึงวิธีการเก็บรักษาอาหารและการใช้งานช่องแช่แข็งเพื่อให้อาหารของคุณอยู่ในสภาพดี
เคล็ดลับในการเก็บรักษาอาหารเพื่อช่วยให้อาหารไม่เน่าเสีย
การเก็บรักษาอาหารที่ถูกวิธีจะสามารถช่วยให้อาหารเกิดการเน่าเสียช้าลง คุณสามารถป้องกันความเน่าเสียได้โดยปฏิบัติตามแนวทางการจัดเก็บเหล่านี้:
1.ตรวจสอบฉลากสำหรับคำแนะนำในการจัดเก็บ
นอกจากเนื้อสัตว์ ผัก และผลิตภัณฑ์จากนม ยังมีสินค้าชนิดอื่นๆ อีกมากมายที่จำเป็นต้องแช่เย็น ซึ่งหากคุณไม่ได้แช่เย็นตามฉลากคำแนะนำ ควรรีบใช้วัตถุดิบเหล่านั้นให้หมดหรือนำไปทิ้งเพื่อไม่ให้เกิดการเน่าเสียจนส่งกลิ่นเหม็น
2.รักษาอุณหภูมิของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ควรตั้งค่าช่องแช่แข็งไว้ที่ 0° F (-18° C) วิธีที่ดีที่สุดในการวัดอุณหภูมิคือการใช้เทอร์โมมิเตอร์สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า ควรตรวจสอบอุณหภูมิอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
3.ใช้วัตถุดิบที่เตรียมไว้มาทำอาหารให้เร็วที่สุด
ควรใช้วัตถุดิบที่แช่เย็นไว้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น เนื้อสัตว์ เพราะยิ่งเก็บไว้ในตู้เย็นนานขึ้น โดยเฉพาะที่อุณหภูมิสูงกว่า 40° F (4° C) โอกาสที่แบคทีเรียจะเกิดจากอาหารจะยิ่งมีมากขึ้น
4.ของเน่าเสียง่ายควรแช่เย็นหรือแช่แข็งทันที
ทันทีที่คุณกลับถึงบ้าน ควรใส่อาหารที่ต้องแช่เย็นไว้ในตู้เย็น และเมื่อนำผลิตภัณฑ์ไว้ที่อุณหภูมิห้องให้ปฏิบัติตาม "กฎสองชั่วโมง" คือห้ามปล่อยให้เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ หรืออาหารอื่นๆ ที่ต้องแช่เย็น วางทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องนานกว่าสองชั่วโมง
5.ระวังอาหารเน่าเสีย
ควรกำจัดวัตถุดิบที่เริ่มส่งกลิ่นหรือมีเชื้อราทิ้งไป แม้ว่าเชื้อราจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพเพียงเล็กน้อย แต่ก็สามารถทำให้อาหารมีรสชาติที่ผิดเพี้ยนไปได้
6.อย่านำภาชนะที่เคยบรรจุเนื้อดิบมาใช้ซ้ำ
อย่าใช้ภาชนะที่เก็บเนื้อดิบซ้ำ ควรจัดเก็บอาหารอย่างเหมาะสมโดยใช้จาน ช้อนส้อม เคาน์เตอร์ที่สะอาด และปิดฝาอาหารที่เหลือให้สนิทก่อนนำไปแช่เย็น หรือหากต้องการใช้ภาชนะนั้นซ้ำ ควรทำความสะอาดด้วยสบู่และน้ำอุ่นเป็นเวลาอย่างน้อย 20 วินาทีก่อนที่จะใช้อีกครั้ง
7.ให้อากาศหมุนเวียน
หลีกเลี่ยงการบรรจุอาหารในตู้เย็นหรือช่องแช่แข็งจนอากาศไม่สามารถถ่ายเทได้
ทำความรู้จักกับช่องแช่แข็ง
ตู้แช่แข็งควรตั้งไว้ที่ 0° F (-18° C) หรือต่ำกว่านั้น และควรมีการตรวจสอบเทอร์โมมิเตอร์ตู้เย็น/ตู้แช่แข็งเป็นประจำเพื่อให้สามารถอ่านค่าอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำ
แบคทีเรียส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกทำลายโดยการแช่แข็ง แม้ว่าอาหารจะยังคงปลอดภัยที่อุณหภูมิ 0° F แต่คุณภาพก็สามารถเสื่อมลงได้เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งที่จะเสื่อมลง ได้แก่ สี ความชุ่มฉ่ำ รสชาติ วิธีที่ดีที่สุดในการจัดเก็บของให้เกิดความเสื่อมน้อยที่สุด คือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์
สารอาหารจะไม่ลดลงจากการแช่แข็ง เมื่ออาหารถูกแช่แข็ง ปริมาณโปรตีนจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย การแช่แข็งอาจทำให้สารอาหารบางอย่างเสื่อมสภาพลงเมื่อเวลาผ่านไป การสูญเสียสารอาหารขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ รวมถึงประเภทของอาหารที่ถูกแช่แข็ง ระยะเวลาในการจัดเก็บ และอุณหภูมิ ตัวอย่างเช่น การแช่แข็งอาจทำให้วิตามินซีซึ่งเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำแตกตัวได้ ในทางกลับกัน แร่ธาตุที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการแช่แข็ง ก็อาจมีการสูญเสียไปในระหว่างกระบวนการปรุงอาหาร ดังนั้น เพื่อรักษาสารอาหารไว้ เมื่อซื้อวัตถุดิบมาควรนำไปแช่แข็งทันทีและจัดเก็บอาหารอย่างเหมาะสม เช่น ในภาชนะสูญญากาศหรือถุงแช่แข็งที่อุณหภูมิ 0°F หรือต่ำกว่า
สิ่งสำคัญคือต้องรู้วิธีเก็บอาหารอย่างปลอดภัย
สินค้ากระป๋องควรได้รับการตรวจสอบความเสียหายก่อนเปิดใช้งานทุกครั้ง: กระป๋องที่มีรอยบุบหมายความว่าอาจมีอากาศเข้าไปในกระป๋องระหว่างการผลิต ซึ่งอาจทำให้มีแบคทีเรียได้ ดังนั้นควรทิ้งทันที เพราะมีความชื้นหลงเหลืออยู่ภายใน และตรวจสอบว่ามีชิ้นส่วนที่ได้รับความเสียหายหรือไม่ ซึ่งอาจมีสารเคมีที่เป็นอันตรายเข้าไปในภาชนะดังกล่าว
บทสรุป
วิธีที่ดีที่สุดในการเก็บรักษาอาหารให้ปลอดภัยคือการรักษาความเย็นและหลีกเลี่ยงการปนเปื้อน ซึ่งหมายความว่าคุณควรเก็บอาหารที่เน่าเสียง่ายไว้ในตู้เย็นหรือช่องแช่แข็ง ตัวอย่างเช่น หากคุณซื้ออกไก่และจะไม่ทานในทันที ให้คุณนำไปใส่ในช่องแช่แข็งจนกว่าจะใช้ นอกจากนี้ ควรล้างมือให้สะอาดก่อนหยิบจับอาหาร
ติดต่อกับเราได้ผ่านช่องทาง Facebook, Instagram, TikTok, Twitter & YouTube
เพื่อติดตามข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับ TCL โปรดักส์และกิจกรรม
บทสรุป
วิธีที่ดีที่สุดในการเก็บรักษาอาหารให้ปลอดภัยคือการรักษาความเย็นและหลีกเลี่ยงการปนเปื้อน ซึ่งหมายความว่าคุณควรเก็บอาหารที่เน่าเสียง่ายไว้ในตู้เย็นหรือช่องแช่แข็ง ตัวอย่างเช่น หากคุณซื้ออกไก่และจะไม่ทานในทันที ให้คุณนำไปใส่ในช่องแช่แข็งจนกว่าจะใช้ นอกจากนี้ ควรล้างมือให้สะอาดก่อนหยิบจับอาหาร
ติดต่อกับเราได้ผ่านช่องทาง Facebook, Instagram, TikTok, Twitter & YouTube
เพื่อติดตามข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับ TCL โปรดักส์และกิจกรรม